อยากมีรักที่ดีต้องทำอย่างไร ?
ลองจูงมือคนรักมาขึ้นบันได 5 ขั้น
แล้วจะรู้ว่า…รักออกแบบได้ ไม่ยากอย่างที่คิด

งานง่ายที่สุดคือจัดใจเรา เพื่อเข้าใจเขา
แล้วต้องใช้เวลา เพื่อให้เขาจัดใจเขาด้วย
ถ้าเราไม่รักใครเราไม่เอาเขามาไว้ในใจเราหรอก
แต่พอเราเห็นเขาไม่เป็นดังใจเรา เราก็อึดอัดกับสิ่งที่เรารัก
ถ้าอย่างนี้ทุกข์ลึก
เพราะเราไม่ได้จัดใจเราเพื่อเข้าใจเขา
เราบังคับเขาให้เป็นดังใจเรา-อันนี้ทุกข์
เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปจัดการคนอื่นให้เป็นอย่างที่ใจเราต้องการ
คนที่จะไปจัดการคนอื่นแล้วให้คนอื่นเข้าใจเราอย่างที่เราเป็น
ถึงจะเรียกว่า เรารักเขา เขารักเรา มันเห็นแก่ตัวไปหน่อยมั้ย
แล้วเรามักจะพูดว่า ‘เราเข้ากันไม่ได้’ แต่ลืมไปว่าตอนที่รักกัน
ทุกอย่างเข้ากันเหมือนน้ำกับน้ำนม แต่พอมันจืดจาง
และ…ขอโทษนะ ไม่ซื่อสัตย์ มันจะกลายเป็นน้ำกับน้ำมัน

หายใจลึกๆ แล้วมองดูว่าเราเอาอะไรเป็นศูนย์กลางของสิ่งที่เรียกว่ารัก
เอาตัวเอง
เอาถูกเอาผิด
เอาใช่เอาไม่ใช่
เอาชอบเอาชัง
หรือเอาทุกข์กับพ้นทุกข์
ถ้าเราเอาทุกข์กับพ้นทุกข์ ทุกเรื่องง่าย
คือถ้ามองความรักอย่างไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง มันจะขยายความรัก
ความรักจะถูกขยายออกไป…อย่างไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ

เอา ‘ฉัน’ และ ‘ของฉัน’ ออกไปเถอะกับความรัก
ถ้าเราเข้าใจ เราจะรู้ว่าความรักแท้มีอยู่จริง
นิยายก็มาจากชีวิตจริงนี่แหละ
คนเขียนนิยายก็เขียนจากชีวิตจริง
เพราะฉะนั้นที่บอกว่ารักแท้มีแค่ในนิยาย เป็นไปไม่ได้หรอก
รักแท้อยู่ในชีวิตจริง
เพียงแค่เอา ‘ฉัน’ ‘ของฉัน’ ออกไป ไม่ยากหรอก
คือเวลาที่เราบอกว่ามันไม่ต้องเป็นดังใจฉันหรอก มันจะใสๆ เลยนะ
เพราะเราจะไม่ทุกข์อย่างที่เขาเป็น แต่เราทุกข์เพราะมันไม่เป็นดังใจฉันชัดเจนมั้ย
เพราะมันไม่เป็นอย่างใจฉัน ฉันจึงพยายามดิ้นรน พยายามจะเอาชนะ
พยายามจะแสดงฤทธิ์ พยายามที่จะบอกว่าฉันถูก
เธอสัญญากับฉันแล้วไม่ทำตามสัญญา อะไรก็ว่าไป

ความรักจะเป็นอะไรที่ให้อภัยได้อย่างลึกซึ้ง
และความรักที่มีการให้อภัยอย่างลึกซึ้ง
เป็นความรักที่ยืนยันได้เลยว่า มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
เห็นมั้ย-กำไร
กำลังพูดถึงกำไรของความรักที่ให้อภัย
เมื่อใดที่เกิดการให้อภัย มันจะเกิดการเริ่มต้น
และในการเริ่มต้นที่มีความเข้าใจที่ไม่ได้มีการจัดการของฉัน มันจะเป็นธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงที่งดงาม
ยั่งยืนด้วย
เพราะรากของความรักคือเข้าใจ
คนที่ไม่ยอม คนที่ปฏิเสธ และให้อภัยไม่ได้ ยังเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
เพราะฉะนั้นถ้าเรามองใจเราว่า ถ้าเราอยากให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ใครเปลี่ยนก่อน-เรา เราต้องเปลี่ยนก่อน

เราต้องเข้าใจก่อนว่าเวลาที่เราทุกข์ เราไม่ได้ทุกข์เพราะคนอื่น
คนที่ผิดหวังกับความรักโปรดทำความเข้าใจ
ว่าคุณไม่ได้ทุกข์เพราะคนที่คุณรักทำให้คุณทุกข์
แต่คุณทุกข์เพราะตัวคุณเอง
กลัวจะไม่สมหวัง ก็หาอะไรโปะๆ เข้าไป
แต่มันไม่ใช่ความจริงไง เพราะมนุษย์มีความรู้สึก ใครอยู่กับเรา เขาก็อยากรู้สึกดี
เพราะฉะนั้นเวลาที่เรารู้สึกไว้ใจใครสักคน อย่างที่เราเข้าใจว่าเขาเป็นอย่างที่เขาเป็น
แล้วเราไม่สงสัยในสิ่งที่เขาเป็น เราจะยอมรับเขาได้ แล้วเราจะเจอความจริง
ความรักมีความรู้สึก แล้วมีการให้อภัย มีการยอมรับ
เราไม่ได้ทุกข์เพราะคนอื่นไม่ดี
เราไม่ได้ทุกข์เพราะคนอื่นสนองความรักเราไม่ได้
แต่เราทุกข์เพราะเราไม่มีความรู้เท่าทันปัจจุบันขณะที่เกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกของเราต่างหาก
ที่เราเรียกว่า ‘อวิชชา’ คือความมืดบอด
และทุกเรื่องจากนี้ไป อะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
ถ้ามันจบลงด้วยความทุกข์ มันมีหัวขบวนคือความไม่รู้ คืออวิชชาทั้งสิ้น
แล้วอวิชชาของใคร
ก็ทุกข์อยู่กับใครล่ะ เพราะงั้นเราจึงต้องทำลายคำว่า ‘ฉัน’ ไง
บางส่วนจาก หนังสือ The Book of Truth
บทสนทนาว่าด้วย ความรัก ความจากพราก และความตาย
เรื่อง : แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
สนทนา : มนทิรา จูฑะพุทธิ
