ถ้าหากความตายทำให้คุณรู้สึก ‘กลัว’
ลองหันหน้าเผชิญกับธรรมชาติของชีวิตข้อนี้
แล้วจะรู้เลยว่า ทุกลมหายใจนั้นมีคุณค่าและมีความสุขอย่างไร ?

ขั้นกว่าของ ‘ตายแบบคืนลมหายใจ’ คือ ‘ตายเสียก่อนตาย’
ถ้าเราบอกว่าการเกิดคือการได้โอกาสที่จะพิสูจน์ว่าชีวิตมีศักยภาพสูงสุด คือพ้นทุกข์
การตายก็คือตายเสียก่อนตาย ในพุทธศาสนาจะบอกว่า ‘ตายเสียก่อนตาย’
ก่อนที่จะตายแบบคืนลมหายใจ ตายแบบหมดสภาพของการมีชีวิต
แต่ตายเสียก่อนตายคือการทำให้ชีวิตที่ได้การเกิด เป็นการเกิดที่สำคัญนัก
เป็นการเกิดที่ไม่เกิดอีกในสิ่งที่เรียกว่าทุกข์ จึงเป็นการตายจากความยึดมั่นถือมั่น
เพราะฉะนั้นตายในทางพุทธศาสนาก็คือตายจากความยึดมั่นถือมั่น ซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกข์ นี้เรียกว่าตายเสียก่อนตาย

‘ตายจากความยึดมั่นถือมั่น’ คือ ศิลปะของชีวิต
การจะตายจากความยึดมั่นถือมั่นต้องทำกันตลอดชีวิต และแม้แต่หนึ่งชีวิตแล้วก็อาจจะยังไม่ได้ ต้องมาเกิดอีกหลายครั้ง สำหรับคนที่ไม่ได้ทุ่มเทเรื่องนี้ แต่การเกิด-ตายธรรมดาแบบปุถุชนโดยทั่วไป ทุกคนทำอยู่แล้วไง แต่ถ้าใช้การเกิดครั้งนี้เป็นการเกิดไม่เกิดอีกแห่งทุกข์ มันต้องขวนขวาย ต้องมีความเพียรชอบ ถามว่าทำได้มั้ย-ทำได้ แต่ถามว่าทำได้ทุกคนมั้ย ถ้าทุกคนฝึกก็ทำได้ทุกคน แต่ถ้าไม่ฝึก ที่เวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฎก็เยอะอยู่
มนทิรา : แท้จริงแล้ว การตายก็คือศิลปะของการดำเนินชีวิต
แม่ชีศันสนีย์ : ถ้าอยู่อย่างไม่ตายทั้งเป็น คือตายจากความยึดมั่นถือมั่น มันก็เป็นศิลปะชั้นยอดอยู่แล้ว

ตายอย่างมีศิลปะ มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ สัตว์ทำไม่ได้
การตายเป็นเรื่องที่เตือนให้พวกเราดำรงชีวิตอย่างไม่ประมาทเพื่อให้เราตายเสียก่อนตายให้ได้ ซึ่งเป็นศิลปะที่มนุษย์ไปถึงได้ และต้องไปให้ถึง เพราะเมื่อคุณเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ สัตว์ชนิดอื่นทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อคุณเกิดมา คุณมีเป้าหมายของคุณอยู่แล้วละ ถ้าคุณไม่ถูกสิ่งแวดล้อมพาคุณไปหลงระเริงที่อื่น ก็คือการพ้นทุกข์
การเกิดเป็นมนุษย์มีศักยภาพสูงสุดคือการไปให้ถึงการพ้นทุกข์
เรียกว่าเราแทบจะได้ความเป็นอิสรชนตั้งแต่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์เลยนะ
เพราะเป็นมนุษย์เท่านั้นที่ฝึกได้
ดังนั้นถ้าเป็นมนุษย์แล้วไม่ฝึกเรื่องที่มันทำได้ก็น่าเสียดายมากเลยละ

ที่ไปไม่ถึงเป้า ‘นิพพาน’ เพราะเผลอเพลินกับความเอร็ดอร่อย
เป้าสำคัญมากนะ-นิพพาน แต่คนโดยส่วนใหญ่ไม่ได้วางเป้าที่นิพพาน ทุกคนก็ติดอยู่แค่รายทาง ความสะดวกสบาย เผลอเพลินอยู่กับความเอร็ดอร่อย หรือว่าตีอกชกตัวอยู่กับสิ่งที่ไม่เป็นดั่งใจ ซึ่งอันนี้เพราะเป้าไม่ชัด ถึงได้บอกว่าความสำคัญของการดำเนินชีวิตในแต่ละก้าวอยู่ที่ว่า ถ้าคุณมีเป้าชัดคุณก็กำหนดทิศทางเข้าสู่เป้าชัด ก็คือหนทางอันประเสริฐ
มนทิรา : มนุษย์ทุกคนควรวางเป้าหมายของชีวิตคือนิพพาน
แม่ชีศันสนีย์ : ก็มันเป็นสิ่งเดียวที่มนุษย์ไปถึง สัตว์อื่นไปไม่ถึงน่ะ

การเกิดใหม่ทุกครั้งเป็นทุกข์ร่ำไป
การเกิดใหม่ทุกครั้งเป็นทุกข์ร่ำไป คือสิ่งนี้ ถ้าเราเข้าใจวงจรปฏิจจสมุปาท
ภพชาติแห่งทุกข์จะไม่เกิดเลยถ้าเราไม่ปล่อยให้ตัณหาปรากฏขึ้นอีกในชีวิตของเรา
เราแค่จบลงที่ความรู้สึกสั้น-สั้น เวทนาสั้น-สั้นตัณหามีไม่ได้ อุปาทานก็ไม่มี แล้วภพชาติแห่งทุกข์จะมีได้อย่างไร

เราสามารถกำหนดการตายของเราได้
มนทิรา : เราสามารถกำหนดการตายของเราได้
แม่ชีศันสนีย์ : ตายเสียก่อนตายเรากำหนดได้เลย
มนทิรา : กำหนดการตายเพื่อให้เกิดใหม่อย่างดี ได้หรือไม่
แม่ชีศันสนีย์ : ถ้าเรายังไม่ไปถึงที่สุดของการไม่เกิดอีกแห่งทุกข์ เราก็กำหนดสถานีเกิดใหม่ได้จากการตายในสถานีที่เย็น ก็จะไปเกิดเย็น กำหนดได้
แต่มันไม่ควรจะเกิดอีกนี่
มนทิรา : เราจะรู้ได้อย่างไรเล่า
แม่ชีศันสนีย์ : อ้าว เราก็ต้องทำให้มันเกิดความมั่นใจในตน ว่าทุกข์ไม่มีแล้วสำหรับเรา

ถ้าไม่มี ‘ฉัน’ ก็ไม่มีวันไหนสำคัญกว่ากัน
ทุกๆ วันสำคัญหมดถ้าใช้แต่ละวันอย่างเห็นการเกิด-ดับอย่างฉับพลัน เกิด-ดับฉับพลัน เกิด-ดับฉับพลันในทุกๆ ก้าวของเรา มันก็ไม่เสียเวลา มุ่งตรงนิพพานเลย เกิด-ตายไม่มีวันไหนสำคัญกว่ากันแล้ว เพราะมันไม่มีใครเกิดใครตาย เมื่อไม่มีฉันเกิดฉันตาย มันจะมาบอกไม่ได้ว่าใครสำคัญกว่ากัน
Happy Birthday สำหรับปุถุชนก็ว่าฉันเกิด Happy Deathday สำหรับปุถุชนก็ว่าฉันตาย ก็ยังมีภพชาติอยู่ ถ้าไม่มี ‘ฉัน’ ก็ไม่มีวันไหนสำคัญกว่ากัน เพราะมันไม่มี ‘ฉัน’

โลงศพของเราไม่ใช่สี่เหลี่ยมนะคะ โลกใบนี้คือโลงศพ
มนทิรา : ที่ญี่ปุ่น มีกิจกรรมปลูกฝังให้คนรักชีวิตโดยการลงไปนอนในโลงศพแล้วปิดฝาอยู่ในความมืดมิดประมาณสิบนาที วิธีนี้เป็นการชิมลางความรู้สึกก่อนตายได้ไหม
แม่ชีศันสนีย์ : ไม่ต้อง เพราะการตายไม่ใช่การอยู่ในโลง การตายสำหรับปุถุชนยังอยู่ในโลงใช่มั้ยล่ะ แต่ตายที่พูดมาทั้งหมด คือตายจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่จำเป็นต้องมีโลง
โลงศพของเราไม่ใช่สี่เหลี่ยมนะคะ โลกใบนี้คือโลงศพ
เนื้อหาจาก E-Book หนังสือชุด The Book of Truth
บทสนทนาว่าด้วย ความรัก ความจากพราก ความตาย
เรื่อง : แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
สนทนา : มนทิรา จูฑะพุทธิ
คลิกสั่งซื้อ E-Book >> http://bit.ly/2RctjQE
รายได้จากการจำหน่ายหนังสือชุดนี้ รวมทั้งค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด มอบให้โครงการ ‘ธรรมาศรม’ ในเสถียรธรรมสถาน อาศรมปฏิบัติธรรมสำหรับคนทุกเพศวัย ที่มีจุดหมาย ‘พ้นทุกข์’
