โปรดส่องกระจก…แล้วอ่านเรื่องราวต่อไปนี้
เมื่อใดที่รู้สึกโกรธ คุณจะกลายร่างเป็นมนุษย์หัวร้อนพร้อมพ่นไฟ
เมื่อใดที่รู้สึกทุกข์ คุณจะแปรเปลี่ยนเป็นคนใจบาง อ่อนไหว รอวันบุบสลาย
คนในกระจกที่คุณมองเห็น เคยแปลงร่างเป็นแบบนั้นหรือไม่ ?
ทุกวินาทีที่ปล่อยให้ตนเองแปลงร่าง
คุณกำลังสูญเสียความสุขและพลังงานที่พร้อมจะทำสิ่งดีๆ ไปทุกขณะ
วันที่ควรจะสดใสกลับกลายเป็นวันฟ้าหม่น นั่นเป็นเพราะใจถูกกระตุ้น
ดังนั้นขอให้คุณปล่อยวางด้วยการฝึกสติ ยืน ดู รู้ ปล่อย
ฝึกไปเรื่อยๆ
เรื่อยๆ
แล้วบอกเราหน่อยนะ…ว่าในกระจกเป็นอย่างไร ?

มนทิรา : วงจรดั้งเดิมที่มีมาแต่โบราณของสมองมนุษย์ จะคอยขับดันให้เรามีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ตลอดเวลา แต่อุเบกขาคือตัวที่จะตัดวงจรนั้น คือต้องไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสิ่งกระตุ้น ซึ่งผู้เขียนกล่าวว่าสิ่งนี้เป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างแปลกประหลาดมากสำหรับสมองที่ถูกออกแบบโดยการวิวัฒนาการให้ตอบสนอง โดยเฉพาะต่อกระแสความรู้สึกที่น่าพึงพอใจและไม่น่าพึงพอใจ เช่นนี้แล้ว การวางอุเบกขาก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่ง และเราควรฝึกที่จะวางอุเบกขาอย่างไร
แม่ชีศันสนีย์ : เราพูดให้ง่ายเลย ในระดับสมองพอถูกกระทบมันจะไปกระเทือนที่ใจ แล้วมันจะไปหลงอารมณ์ กระแทกออกไปให้คนเจ็บปวด
การกระทบมันกระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ กระทบทางธรรมารมณ์ ถามว่าการกระทบนี่เป็นการกระทบของหน้าที่ทางระบบประสาท ถูกมั้ยคะ พอตามองเห็นรูป ไปรู้สึกที่ใจ หูได้ยินเสียง ไปรู้สึกที่ใจ ใจเป็นประตูรับ
เพราะฉะนั้นตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เป็นประตูเปิด เป็นอายตนะ ให้เราไปกระทบกับโลก เช่น ตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่น ลิ้นกระทบรส กายกระทบโผฐัพพะ เย็น ร้อน อ่อน แข็ง หย่อน ตึง ใจกระทบกับธรรมารมณ์

แต่พอมันกระทบ มันเกิดวิญญาณการรับรู้ จะเป็นอายตนะภายนอก 6 ภายใน 6 วิญญาณ 6 พระพุทธเจ้าพูดเรื่องนี้เลยนะ ถ้าวิญญาณ 6 ถูกสติปัญญาครองไว้ มันจะไปอยู่ในฝ่ายของเห็นเวทนาสักแต่ว่าเวทนา แต่ถ้าไม่มีสติปัญญาครอง มันจะเผลอเพลินกับเวทนา
เห็นมั้ยว่าปัญญาเป็นเรื่องของจิต สมองเป็นเรื่องของการกระทบ พอกระทบแล้วต้องมีสติรู้ทันไหว ใจตื่น มันเบรกได้ มันกระทบแล้วรู้ทันกระเทือนแต่ไม่กระแทกได้ เพราะปฏิกิริยาที่กระแทกออกไปคือภาวะของการหลงอารมณ์ทั้งสิ้น
ฝึกจิตให้รับมือกับ ‘กระทบ กระเทือน กระแทก’
เมื่อใดที่เราฝึกเจริญสติ รู้ทันไหว ใจตื่น เราจะกลายเป็นคนที่มีกำลังของจิตที่มั่นคง เป็นสมาธิ ที่จะไม่โต้ตอบออกไป คือไม่กระแทกออกไป ปัญหาก็ยุติง่ายกว่า
กระทบ กระเทือน กระแทก–นี่ปุถุชน
กระทบ รู้ทันไหว ใจตื่น รู้ทันกระเทือนแล้วไม่กระแทก–นี่อารยชน
กระทบ แล้วไม่มีกระเทือนเลย ไม่มีกระแทกแน่นอน-นี่อรหันต์
เพราะฉะนั้นคุณจะเอาระดับไหน ?
ระดับมนุษย์ที่เป็นปุถุชน มนุษย์ที่เป็นอารยชน หรือมนุษย์ที่เป็นพระอรหันต์ ก็อยู่ที่การฝึก
บางส่วนจาก หนังสือ The Book of Truth
บทสนทนาว่าด้วย ความรัก ความจากพราก และความตาย
เรื่อง : แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
สนทนา : มนทิรา จูฑะพุทธิ
