อย่าเพิ่งกดปิด หากเราขอทักทายคุณด้วยบทสนทนาเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ ตั้งแต่วันแรกของปี
เอาเข้าจริงความตายไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยสักนิด เพราะหลายครั้งเราเน้นย้ำให้คุณ ‘เตรียมตัวตายเสียก่อนตาย’
ด้วยการทำทุกวินาทีให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลัง
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการ (ชวน) อ่านครั้งนี้
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะเลิกมองความตายเป็นคนแปลกหน้า และหยุดวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว
หนังสือ 5 เล่มที่เราหยิบมาฝากจะทำให้ชีวิตต่อจากนี้มีความตายเป็นเพื่อนใหม่
อีกทั้งยังสนิทสนมกันยิ่งขึ้น
นี่แหละคือความตาย เพื่อนใหม่ที่คุณต้องพบเจอ (สักวันหนึ่ง)

อ่าน ให้รู้ว่าความตายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
มนทิรา : วรรณกรรม ‘ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย’ ของ ฮารูกิ มูรากามิ “ความตายดำรงอยู่ มิใช่ภาคตรงข้าม หากเเต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” ทั้งที่รู้ แต่ทำไมคนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยนึกถึงความจริงข้อนี้
แม่ชีศันสนีย์ : เพราะว่ากลัวความจากพรากจึงไม่มองว่าความตายเป็นความงดงาม ถ้าเราเข้าถึงความจริงข้อนี้จะเห็นเลยว่า เราจะใช้เวลาและบริหารเวลาอย่างดีที่สุดในทุกๆ ขณะจิตของเรา และเต็มที่กับทุกๆ เรื่อง ในทุกๆ การกระทำ คำพูด และความคิด เพราะความตายเดินเข้ามาหาอยู่ตลอดเวลา แต่การที่อยู่อย่างรู้ตัวทั่วพร้อม ไม่ตายทั้งเป็น มันกลับกลายเป็นความกล้าที่สามารถเผชิญกับความจริงอย่างสมบูรณ์ที่สุด อย่างไม่มีคำว่า ‘ถ้ารู้อย่างนี้’ หรือไม่มีคำว่า ‘เสียดาย’

อ่าน ให้รู้ว่าความตายไม่มีข้อยุติ
มนทิรา : หนังสือ ‘เมื่อลมหายใจกลายเป็นอากาศ’ ประสบการณ์จริงในโมงยามที่ความหวังมลายสิ้น ของคุณหมอพอล กาลนิธิ
“ก่อนวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ผมรู้ว่าวันหนึ่งผมจะตาย แต่ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ หลังวินิจฉัยแล้ว ผมรู้ว่าวันหนึ่งผมจะตาย แต่ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเมื่อไหร่…ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความตายนั้นยังไม่มีข้อยุติ” ความจริงเกี่ยวกับความตายคืออะไร
แม่ชีศันสนีย์ : มะเร็งไม่ใช่ความตาย แต่ความตายคือความตาย เราได้ตายเสียก่อนตายในทุกปัจจุบันขณะได้เร็วมากเท่าไร มะเร็งจะไม่สามารถทำร้ายจิตใจของเราที่เข้มแข็งเช่นนี้ได้เลย มะเร็งเป็นเพียงปรากฏการณ์ของกาย แต่ไม่มีอิทธิพลต่อใจ ถ้ามองว่ามะเร็งเป็นกุศลที่จะเตือนให้เราได้เผชิญกับความตายเสียก่อนตาย หรือตายอย่างไม่ตายทั้งเป็น เราก็ต้องขอบคุณมะเร็ง
ไม่ว่าเราจะเป็นมะเร็งหรือไม่เป็นมะเร็ง เราตายอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นจะตายเมื่อไรมันสำคัญตรงไหน

อ่าน ให้รู้ว่าความตายนั้นเป็นความงอกงาม
มนทิรา : นวนิยาย ‘ผุดเกิดมาลาร่ำ’4 งานเขียนความตายด้วยความงาม ของศิลปินนักเขียน อารยา ราษฏร์จำเริญสุข “ความตายไม่ใช่ไม่สวย แต่หากถึงขนาดงามทีเดียวเชียว” ความตายเป็นความงามจริงหรือ
แม่ชีศันสนีย์ : ความตายเป็นความงอกงาม ไม่ใช่แค่ความงาม เพราะความตายไม่ใช่จุดจบ
ความตายเป็นการเริ่มต้นชีวิตที่มีอีกภพภูมิหนึ่งที่เราได้ลงทุนไว้แล้วในปัจจุบันภูมิ
ความตายคือการเคลื่อนที่จากขณะหนึ่งไปสู่ขณะหนึ่ง จากสิ่งที่เราปฏิบัติไว้ดีแล้วในปัจจุบันขณะ
ความตายคือการส่งผ่านขณะต่อขณะไปสู่อีกภพภูมิหนึ่ง ที่ปฏิเสธการดำรงชีวิตในปัจจุบันขณะที่เป็นเหตุไม่ได้
ถ้าเราอยากตายอย่างงอกงาม เราก็ต้องลงทุนกับปัจจุบันขณะ กับกรรมดีของเราอย่างเต็มที่

อ่าน ให้รู้จักอ่อนแอเสียบ้างเพื่อจะได้แข็งแกร่งอีกครั้ง
มนทิรา : หนังสือ ‘ตาย-เป็น’ : การแพทย์สมัยใหม่ ความตาย และความหมายของปลายทางชีวิต 6 ของศัลยแพทย์ผู้เผชิญหน้ากับความตายนับครั้งไม่ถ้วน อาทูล กาวานดี
“เราจะมีชีวิตอย่างมีคุณค่าได้อย่างไร เมื่อเราอ่อนแอ เปราะบาง และไม่สามารถดูแลปกป้องตัวเองได้อีกต่อไป”
แม่ชีศันสนีย์ : การยอมรับความอ่อนแอ เปราะบาง อย่างไม่ยอมจำนน จะทำให้เรากลับมาแข็งแกร่ง แต่การปฏิเสธการอ่อนแอ ไม่ได้ทำให้เราแข็งแรง
การยอมรับกับการปฏิเสธ ต่างกันตรงที่ใช้สัมมาทิฐิหรือเปล่า
การยอมรับอย่างมีสัมมาทิฐิจะทำให้เราเรียนรู้ และยังมีความเพียรที่จะเผชิญกับความจริง ที่เรายอมรับอย่างไม่ยอมจำนนให้ตัวเองหมดแรง
เหมือนคนว่ายน้ำ ยังคงว่ายไปเรื่อยๆ เมื่อใดที่ยังไม่ถึงฝั่ง ยังต้องมั่นใจว่ามีฝั่งที่จะต้องไปให้ถึง เหมือนพระมหาชนก มันต้องมีสิ่งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมาในขณะที่เรากำลังมีศรัทธาในการสร้างความเพียรตรงนั้น
อ่อนแออาจจะอยู่ในภาวะที่เราไม่อยากจะให้มันเป็นอย่างนั้น มันจึงหมดแรง เช่น เราไม่อยากป่วยหนักใช่มั้ย เราจึงปฏิเสธมัน ที่จริงการป่วยหนักก็เป็นภาวะหนึ่งที่จะทำให้เราเข้มแข็ง มันเป็นที่กาย เราต้องแยกเป็น เพราะฉะนั้นเวลาที่เราทำอะไรสักอย่างที่เรารู้สึกได้ว่า เรายังมีขุมพลังอยู่ในตัวเรา กับการเผชิญกับความเจ็บป่วย มันจะมีพลังที่จะดึงให้เราใช้การยอมรับให้เป็นปัญญา

อ่าน ให้รู้ว่าความตายคือเพื่อนใหม่ที่ต้องพบกัน (สักวัน)
มนทิรา : หนังสือ ‘ศิลปะแห่งการอยู่และการตาย’7ของ โซเกียล ริมโปเช
“ผมมักบอกผู้คนว่า ถ้าคุณกังวลเกี่ยวกับความตาย ขออย่าได้กังวลเลย ผมรับรองว่าคุณจะได้ตายอย่างแน่นอน” ทำไมคนถึงขำไม่ออกกับเรื่องความตาย
แม่ชีศันสนีย์ : (หัวเราะทันที) เพราะคนมักจะมองว่าความตายเป็นความสูญเสีย ซึ่งไม่จริง
ความตายไม่ใช่การสูญเสีย
ความตายคือการได้พบมิตรใหม่
ความตายคือการได้เปลี่ยนภพหนึ่งไปสู่อีกภพหนึ่ง ที่สดใสกว่าเก่า ถ้าเราเตรียมตัวตายอย่างเป็นกุศล กุศลก็จะส่งให้เราไปอยู่ในภพภูมิที่ดีงาม
ส่วนคนที่รักเรา คนที่จะสูญเสียเรา ก็ต้องมีอนุโมทนาต่อการที่เราจะได้พักจากภพหนึ่งไปสู่อีกภพหนึ่งที่ดีกว่า เหมือนคนป่วยที่ทรมานอยู่ แล้วเขาต้องทรมานอยู่เพื่อเรา เพื่อรักษาใจเรา มันก็เห็นแก่ตัวเกินไป
แต่ถ้าเราบอกว่า ให้เขาพักเถอะ เขาได้อยู่กับเรา แล้วเรามีความสุขด้วยกันอย่างลึกซึ้ง อย่างชนิดที่เรียกว่าอยู่ที่ตรงไหนใจนึกถึงกันก็เป็นสุขได้ในทุกๆ ที่ การได้พักของเขาคือความสุขของเรา แล้วให้เขาได้ไปอยู่ในพลังงานที่ดีงาม ที่เขาได้ทำไว้อย่างดีแล้วก่อนตาย อย่างนี้ไม่เห็นแก่ตัว
เพราะการตายคือการไปเกิดแล้วพบมิตรใหม่
ถ้าตายอย่างมีสติปัญญา อย่างมีปัญญาด้วยแล้ว ไม่มีมืด ไปสว่างแน่นอน
อยู่อย่างสว่าง ไปก็สว่าง
ค้นหาคำตอบของ ‘การตายแบบคืนลมหายใจ’ และ ‘ตายเสียก่อนตาย’
บางส่วนจาก หนังสือ The Book of Truth
บทสนทนาว่าด้วย ความรัก ความจากพราก และความตาย
เรื่อง : แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
สนทนา : มนทิรา จูฑะพุทธิ
