ปกติ ฉันไม่ใช่คนนิยมเดินเที่ยวเล่นตามสุสาน หรือไปยืนอ่านป้ายชื่อหลุมฝังศพใครต่อใคร เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก คือ เป็นคนกลัวผี
พิเศษ สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Khai Dinh tomb) เป็นที่เลื่องลือมากว่าเป็นสุสานที่ตกแต่งอย่างสวยงามและอลังการงานสร้างมาก
เรื่อง : มนทิรา จูฑะพุทธิ
ไคดิงห์ : จักรพรรดิผู้วางแผนการตาย
ไคดิงห์ จักรพรรดิองค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์เหงียน คงต้องทรงเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ถึงโปรดให้สร้างสุสานเสียสวยสดงดงามราวพระราชวัง เพื่อพระบรมศพของพระองค์จะได้ประดิษฐานไว้อย่างสงบ โดยมี (รูปปั้น) ขุนนาง ทหาร และยามยืนเฝ้ารักษาการณ์อยู่ด้านล่าง
หรือไม่เช่นนั้น พระองค์ก็ทรงต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากพระองค์โปรดให้สร้างสุสานแห่งนี้ตั้งแต่พระองค์ยังไม่สิ้นพระชนม์
หรือไม่พระองค์ก็ทรงต้องรู้ล่วงหน้าว่าพระองค์จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน (จักรพรรดิไคดิงห์ทรงติดยาเสพย์ติดและสิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมพรรษาเพียง 40 พรรษา)
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สุสานไคดิงห์คือความยิ่งใหญ่และความสวยงามที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์ยิ่งกว่าเมื่อครั้งยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่

หน้าประวัติศาสตร์บันทึกเรื่องราวในรัชสมัยการครองราชย์ของพระองค์ไว้ว่า จักรพรรดิองค์นี้ไม่เป็นที่รักของประชาชน เนื่องจากในช่วงปีพ.ศ.2459 ที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์นั้น เวียดนามอยู่ใต้การปกครองของฝรั่งเศสและได้แบ่งเวียดนามออกเป็นสามส่วน โดยพระองค์ทรงปกครองแคว้นอันนัม ซึ่งอยู่ตอนบนของเวียดนาม ในการปกครองพระองค์ทรงให้ความร่วมมือกับฝรั่งเศสจนถูกมองว่าไม่มีอำนาจการบริหารที่แท้จริงเป็นแต่เพียงหุ่นเชิดของฝรั่งเศสเท่านั้น
ใช่เพียงไม่รัก แต่ถึงกับเกลียดชัง
เมื่อพระองค์เรียกเก็บภาษีเพิ่มจากราษฎร โดยเงินจากภาษีส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างสุสานแห่งนี้

ความงดงามที่ผู้สร้างไม่มีโอกาสเห็น
สุสานตั้งอยู่ในชัยภูมิที่ดีเลิศ สร้างอยู่บนภูเขาหินซึ่งต้องเจาะเนินเขาแล้วไล่ระดับแบ่งเป็น 5 ชั้น ด้านหลังติดกับหุบเขาใหญ่ซึ่งปกคลุมด้วยป่าสนหนาทึบ ส่วนด้านหน้ามีลำธารไหลผ่านสวยงามราวพระราชวังก็ไม่ปาน
สุสานไคดิงห์เริ่มสร้างเมื่อพ.ศ.2463 หลังจากทรงขึ้นครองราชย์ได้เพียง 4 ปี พระองค์เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2468 ยังมิทันที่สุสานจะแล้วเสร็จ
น่าเสียดายที่พระองค์มิอาจเห็นที่ประทับแห่งสุดท้ายของพระองค์ว่าสวยงามเพียงใด
พระราชโอรสของพระองค์ คือ จักรพรรดิบ๋าวด๋ายทรงสานต่อเจตนารมณ์ ดำเนินการสร้างสุสานแห่งนี้จนเสร็จสมบูรณ์ในปีพ.ศ.2474 การก่อสร้างใช้เวลาทั้งหมด 11 ปี
ฉันยืนอ่านข้อความสดุดีที่จักรพรรดิบ๋าวด๋ายทรงให้บันทึกไว้ในแผ่นศิลาจารึกที่ศาลาทางขึ้นสุสาน ไม่ว่าจักรพรรดิไคดิงห์จะถูกครหาอย่างไร แต่ผู้เป็นบิดาย่อมเป็นที่รักเสมอ และด้วยเหตุผลนี้ เราจึงได้เห็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักปรากฏขึ้นทุกที่ในโลก

มังกรในม่านเมฆ : ความงดงามจากฝีเท้า
สุสานไคดิงห์แตกต่างจากสุสานจักรพรรดิองค์อื่น โครงสร้างของสถาปัตยกรรมภายนอกก่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งถือว่าล้ำสมัยมากในช่วงเวลานั้น
ขึ้นบันไดไปที่ลานชั้นแรกจะพบรูปปั้นขุนนาง ทหาร ยาม แม้กระทั่งพาหนะคือ ช้าง ม้า ยืนตั้งแถวขนาบอยู่สองข้าง เพื่อคอยพิทักษ์และรับใช้ดวงวิญญาณขององค์จักรพรรดิไคดิงห์
โครงสร้างเหล็กฉาบปูนแม้จะมีคราบดำเนื่องจากกาลเวลา แต่ก็มั่นคงแข็งแรงและสะท้อนว่าสถานที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่เพียงใด
รูปหล่อสำริดปิดทองในพระอริยาบถนั่งขนาดเท่าองค์จริงขององค์จักรพรรดิไคดิงห์บนแท่นสูงกลางห้องโถงภายในสุสาน คือความงามของศิลปะแบบโรโกโก (Rococo) ที่ทำให้นักเดินทางจากทั่วโลกต่างมุ่งหน้ามาที่สุสานแห่งนี้
กระเบื้องเคลือบสารพัดสีถูกประดับตกแต่งทั่วผนังและกำแพง เป็นลวดลายดอกไม้และสัตว์มงคล สวยเสียจนลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ในสุสาน
แหงนหน้ามองภาพเขียนบนเพดานที่ได้รับการโจษจันท์ชื่อ ‘มังกรในม่านเมฆ’ ที่จิตรกรใช้เท้าวาด
ลือกันว่าสาเหตุที่ช่างเขียนรูปใช้เท้าแทนมือวาด ก็เนื่องมาจากความจงเกลียดจงชังในตัวจักรพรรดิองค์นี้
(แก้ข่าว) ลือที่ว่า สาเหตุที่ช่างเขียนรูปใช้เท้าแทนมือวาด ก็เพราะเป็นการแสดงความเคารพต่อองค์จักรพรรดิ เนื่องจากเวลาพระองค์เสด็จมาตรวจงาน การห้อยขาลงมาที่กษัตริย์ถือว่าผิดกฏมณเฑียรบาล ด้วยเหตุนี้จิตรกรจึงต้องห้อยหัวลงแล้วใช้เท้าวาดแทนการใช้มือ
ฉันแหงนหน้าคอตั้งบ่ามอง ‘มังกรในม่านเมฆ’ ที่อยู่บนเพดานภาพนั้น นี่ขนาดใช้เท้านะเนี่ย ยังสวยงามด้วยลายเส้นที่อ่อนช้อยขนาดนี้ คนที่มีฝีเท้าเป็นเลิศเท่านั้นจึงจะทำเยี่ยงนี้ได้
องค์จักรพรรดิไคดิงห์ก็ทรงพอพระราชหฤทัย เพราะครั้งหนึ่งเคยมีผู้กราบทูลพระองค์ว่า เกรงว่าวันหนึ่ง
จะมีกลุ่มคนที่ต่อต้านพระองค์บุกเข้ามาทำลายและขโมยสิ่งของมีค่าในสุสานแห่งนี้ พระองค์ตรัสด้วยความมั่นใจว่า
“ฉันไม่คิดว่าจะมีใครใจแข็งพอที่จะทำลายสุสานที่มีความงดงามมากถึงเพียงนี้ได้หรอกนะ”
ข้อมูลการเดินทาง
+ เว้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของเวียดนาม ในสมัยราชวงศ์เหงียนช่วงปีพ.ศ.2345-2488
+ สุสานจักรพรรดิไคดิงห์อยู่ห่างจากเมืองเว้ประมาณ 10 กม.
แนะนำ
ใช้บริการรถแท็กซี่ ให้รับ-ส่งที่โรงแรม เนื่องจากราคาไม่แพงและเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย ทำให้สามารถใช้เวลาเดินชมสุสานที่สวยงามได้โดยไม่ต้องรีบร้อน