เรื่องนี้ต้องมีตัวเองเป็นกัลยาณมิตร การที่เราจะใช้ชีวิตครองความเป็นโสด ที่จริงก็มีคุณธรรมหลายตัวที่จะส่งเสริมให้เรามีตัวเองเป็นกัลยาณมิตร เช่น สัปปุริสธรรม 7 คือ จะต้องเป็นคนที่ดำรงชีวิตอย่างรู้เหตุรู้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาลเวลา รู้ชุมชน รู้บุคคล
ถ้าเราเป็นอย่างนี้เราจะคุ้มครองตัวเองได้ เพราะคุณธรรมอย่างนี้จะไม่ให้เราทำเหตุแห่งความประมาท คือการมีชีวิตที่ต้องดูแลตัวเองต้องไม่ให้มีความเหงา ถ้าเรามีความหนักแน่นมั่นคง ในการกระทำทุกย่างก้าวของวิถีชีวิต อย่างคนที่มีตัวเองเป็นเพื่อน คนๆนี้จะไม่ทำเหตุแห่งความเหงาเลย
อยู่คนเดียว ไม่ได้เท่ากับ เป็นคนเหงา
บางทีเรามองว่า คนที่อยู่คนเดียวมักจะเหงา แต่เคยเห็นไหมว่า คนที่อยู่ท่ามกลางผู้คนมากๆ ก็เหงา เห็นไหมว่าความเหงาไม่ได้อยู่ที่มีผู้คนมากหรือน้อย แต่มันอยู่ข้างในว่ามีตัวเองเป็นเพื่อนหรือเปล่า
บางคนอาจจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่เหงา ในขณะที่บางคนอยู่คนเดียวแต่ไม่เคยเหงาเลย เพราะชีวิตมันสงบเย็น หนักแน่น มั่นคง แล้วเป็นประโยชน์อยู่ตลอดเวลา
เพราะ ‘คนโสด’ แปลว่าอิสระ
คำว่า ‘โสด’ จึงเป็นคำที่มองดูแล้วเหมือนกับจะเป็นพฤติกรรมของคนที่อยู่คนเดียว และคำว่า ‘ชีวิตเดี่ยวในท่ามกลาง’ หมายถึง แม้ว่าเราจะอยู่ในท่ามกลางผู้คนหรือสังคมก็ตาม แต่เราก็เป็นอิสระจากการกระทบถึงจะอยู่ในท่ามกลาง แต่เราก็เป็นคนที่มีชีวิตหนักแน่น มั่นคง งดงาม เป็นอิสระ และไม่เหงา
เพราะฉะนั้น ข้างนอกกับข้างในมันเป็นคนละเรื่อง ควรใช้ชีวิตที่อุทิศเพื่อผู้อื่นบ้าง เสียสละความรู้ความสามารถที่มีอยู่เพื่อผู้คนในสังคม ซึ่งมันจะเป็นรากฐานที่ดีของการปฏิบัติธรรม มันจะทำลายความเห็นแก่ตัวของเรา เวลาทำงานกับคนอื่น เพื่อผู้อื่นเราต้องอดทนมาก ต้องยอมกันได้คอยกันได้ ใจกว้าง ให้อภัยเมื่อมีการกระทบตัวตนของเราจะเล็กลง
ชีวิตที่โสดแต่ไม่เห็นแก่ตัวมันจึง ‘สด’ อยู่ด้วยจิตที่เต็มไปด้วยความเบิกบาน ชุ่มชื่น เยือกเย็น แจ่มใส ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
บางส่วนจากหนังสือ เพื่อนทุกข์ 2
โดย แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต